560 จำนวนผู้เข้าชม |
1. ผลกระทบการใช้สาร DDT (DichlorodiphenyI trichloroethane) สารเคมีกลุ่มออร์เเกโนคลอรีน ซึ่งในอดีตทั่วโลกเคยนิยมใช้กำจัดแมลงโดยสารเคมีกลุ่มดังกล่าวเป็นสารที่มีพิษ และสลายตัวได้ช้า ไม่ละลายน้ำ ทำให้พบว่ามีการตกค้างในสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศสะสมในดินและสิ่งเเวดล้อมเป็นระยะเวลานาน ทำให้หลายประเทศทั่วโลก เริ่มมีมาตรการไม่อนุญาติให้ใช้สารกลุ่มดังกล่าว หรือควบคุมการใช้เพราะกังวลถึงผลกระทบในด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
2. ผลกระทบต่อ "สิ่งแวดล้อม" จากการใช้สารกำจัดศัตรูพืชทางการเกษตรด้วยวิธีฉีดพ่น เพื่อกำจัดศัตรูพืชทางการเกษตรไม่เพียงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการกำจัดศัตรูพืช เเต่สารดังกล่าวยังสามารถปนเปื้อนในอากาศ ดิน และน้ำได้อย่างง่ายดายจากการฟุ้งกระจายของสารก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์บางประเภทที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย เเละเกิดการสะสมของสารเคมีจนส่งผลกระทบระยะยาว
3. ผลกระทบต่อ "สุขภาพ" สารกำจัดศัตรูพืชยังสามารถส่งผลกระทบลุกลามมายังสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรง ทั้งเเบบเฉียบพลัน และเรื้อรังของมนุษย์
รายงานจากองค์การอนามัยโลก (WTO)
พบว่าในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการได้รับพิษจากสารกำจัดศัตรูพืชเฉียบพลันถึง 350,000 ราย โดยยังไม่รวมผู้ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ จากการได้รับสารเคมีดังกล่าว ซึ่งทาง WTO รายงานถึงผลการประเมินการได้รับสารในระยะยาวพบจำนวนผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งแต่ละปีเพิ่มขึ้นถึง 750,000 คน ซึ่งจากสถิติส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา
เมื่อได้รับ "สารกำจัดศัตรูพืช" จะเกิดอาการเช่นใด
การเกิดพิษเฉียบพลัน สารกำจัดศัตรูพืชก่อให้เกิดอันตรายหรือเสียชีวิตได้ หลังจากได้รับสารจากทางการหายใจ การสัมผัส และการกลืนกินเพียงครั้งเดียวซึ่งจะเเสดงอาการได้อย่างชัดเจนภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง โดยเเสดงอาการดังนี้
- หายใจลำบาก
- ระคายเคืองตาและผิวหนัง
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง
- ปวดหัว ชักและเสียชีวิต
การเกิดพิษเรื้อรัง สารกำจัดศัตรูพืชสามารถก่อให้เกิดผลร้ายได้ในระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งอาจจะได้รับสารเคมีในระดับต่ำมีอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อย หรือไม่เเสดงอาการทันที เเต่หากสะสมในระยะยาว อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนเเรง อาทิ
- โรคพารคินสัน
- หอบหืด
- มะเร็งชนิดต่างๆ
ขอบคุณที่มา : www.warning.acfs.go.th/th/articles-and-research/view/?page=26